บทที่ 5 ตอนที่ 5

“แต่... ฉันคิดว่าคุณผูกมันเองได้”

“ทุกวันน่ะใช่ แต่วันนี้ฉันต้องการให้เธอผูกเนกไทให้กับฉัน”

“แต่ว่า...”

“ลืมไปแล้วหรือไงว่าที่ห้างของเธอน่ะ ลูกค้าคือพระเจ้า”

คามิเอลพูดจบก็เดินดุ่ม ๆ ตรงไปยังห้องลองเสื้อผ้า วาดจันทร์รีบเดินหน้าตาตื่นตามไป

“ผูกเนกไทไม่จำเป็นต้องเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้าก็ได้ค่ะ ตรงนี้ก็ได้”

คนตัวโตหยุดเดินหันมามองด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “แต่ฉันต้องการความเป็นส่วนตัว เดินตามเข้ามา อย่าให้ฉันต้องไปรายงานพฤติกรรมของเธอกับหัวหน้าของเธอล่ะ”

แล้วพ่อเจ้าประคุณที่คาบความเอาแต่ใจมาตั้งแต่เกิดก็เดินหายเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้า วาดจันทร์หัวใจเต้นแรง มองไปรอบ ๆ ตัวอย่างหวาดหวั่น แต่เพราะไม่มีเลือกจึงจำเป็นต้องกัดฟันเดินตามคนตัวโตเข้าไป

คามิเอลอมยิ้มอย่างพึงพอใจที่วาดจันทร์เดินตามตัวเองเข้ามา เขาเอื้อมไปลงกลอนประตู และนั่นก็ทำให้วาดจันทร์หน้าตาซีดเผือดด้วยความตกใจ

“คุณ... ล็อกประตูทำไม”

คนถูกถามไหวไหล่กว้างของตัวเองน้อย ๆ อย่างไม่แยแสสิ่งใดในโลก “ฉันชอบความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องการตกอยู่ในสายตาของใคร”

“แต่ฉัน... ฉันไม่ชอบอยู่กับผู้ชายในที่รโหฐานแบบนี้ มันเสียหาย” วาดจันทร์กำเนกไทในมือแน่นจนมันแทบขาด มองเขาอย่างขุ่นเคือง

“อย่างเธอ... มีอะไรให้เสียได้อีกหรือ”

“นี่คุณ... อย่ามาดูถูกฉันนะ”

ดวงตาเขียวปั๊ดของวาดจันทร์ทำให้คามิเอลไม่อยากจะต้องปากต่อคำด้วยอีก เขาเหลือบตามองเวลาบนนาฬิกาข้อมือเรือนทองของตัวเอง ก่อนจะพูดออกมา

“เธอมีเวลาผูกเนกไทให้ฉันห้านาที ลงมือซะ”

คนถูกออกคำสั่งเม้มปากแน่น หัวใจเต้นแรงแทบหลุดออกมาจากขั้ว ให้ตายเถอะ ทำไมยิ่งหนี ทำไมยิ่งพยายามจะอยู่ให้ห่างไกล แต่สุดท้ายกลับต้องมาใกล้ชิดถึงขนาดนี้นะ ดูสิ... ตาบ้าคามิเอล การ์รัสโซ่ ยืนอยู่ห่างจากหล่อนแค่คืบเดียวเท่านั้นเอง

งาน...ท่องเอาไว้วาดจันทร์ว่ามันคืองาน รีบทำ มันจะได้จบ ๆ กันไปซะที รีบทำเข้า... รีบทำ... หญิงสาวตะโกนบอกตัวเองก้องสมอง

“ก็ได้... ฉันจะรีบผูกเนกไทให้กับคุณ”

คามิเอลซ่อนยิ้ม แม้จะพยายามบอกตัวเองว่าวาดจันทร์นั้นแพศยามากแค่ไหน และเขาจะต้องเอาคืนให้สาสม แต่พอได้อยู่ใกล้ ๆ กับหล่อน เขากลับลืมทุกความอาฆาตไปเสียจนหมดสิ้น มีแต่เพียงความรู้สึกวูบวาบหวานฉ่ำที่หล่อเลี้ยงไปทั้งเรือนกายเท่านั้น

“งั้นก็เริ่มสิ” คนตัวโตเอาสองมือของตัวเองไพล่หลังเอาไว้

“งั้นก็ก้มลงมาหน่อยได้ไหมคะ คุณตัวสูง ฉันผูกไม่ถึงหรอกนะ”

“นั่นมันเรื่องของเธอ”

คำพูดไม่แยแสของคนที่ยืนนิ่งอยู่ทำให้วาดจันทร์ต้องเม้มปากแน่น และก็จำเป็นอย่างที่สุดที่จะต้องเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อให้สามารถตวัดเส้นเนกไทรอบลำคอแกร่งของเขาได้ แต่เพราะปลายเท้าไม่มั่นคงหล่อนจึงเซไปชนกับแผ่นอกกว้างถึงสามครั้งกว่าจะสามารถทำได้สำเร็จ

หญิงสาวหน้าแดงก่ำด้วยความขัดเขิน เพราะเกรงว่าคามิเอลจะคิดว่าหล่อนให้ท่า แต่สุดท้ายก็ต้องเลิกคิดไป เพราะคนตัวโตยังคงยืนนิ่งไม่ได้แสดงท่าทางสะทกสะท้านอะไรออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว แทนที่วาดจันทร์จะรู้สึกโล่งใจกับท่าทางเฉยชาของคามิเอล ตรงกันข้ามหล่อนกับรู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูกต่างหาก เพราะหล่อนสะท้านไปทั้งตัวและหัวใจเมื่อได้สัมผัสกับเขา แต่เขาสิ... ยืนเฉยเหมือนกับว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ก็อย่างว่าล่ะนะ หล่อนในสายตาของเขามันก็แค่พนักงานห้างต่ำต้อยนี่ แถมยังหน้าตามอมแมมน่าเกลียดอีก คามิเอล การ์รัสโซ่ไม่มีทางมองหล่อนซ้ำสอง วาดจันทร์คิดอย่างขมขื่นสุด ๆ

“เลิกจ้องฉันแล้วรีบ ๆ ผูกเถอะวาดจันทร์ อย่าลืมสิว่าฉันมีประชุม”

คนที่กำลังจมปลักอยู่ในบ่อเหวแห่งความทุกข์ทรมานสะดุ้งได้สติในทันที วาดจันทร์หน้าร้อนผ่าวกับคำพูดตรงไปตรงมาของคามิเอล

“ฉัน... กำลังพยายามอยู่...”

และวาดจันทร์ก็พยายามอย่างที่พูดจริง ๆ แต่ด้วยมือไม้ที่สั่นเทาก็ทำให้หล่อนต้องผูกมันซ้ำ ๆ อยู่หลายครั้งกว่าจะสามารถทำสำเร็จได้

“สะ เสร็จแล้วค่ะ”

คามิเอลหรี่ตาลงมองเนกไทที่วาดจันทร์เป็นคนผูกให้ด้วยสายตาไร้ความรู้สึก “ขอบใจมาก เธอนี่มีฝีมือในการเลือกและผูกเนกไทจริง ๆ เลย วันหน้าฉันคงจะต้องมาใช้บริการเธออีกแน่ ๆ”

“เอ่อ...”

หญิงสาวยังไม่ทันจะตอบอะไรออกไป เอวคอดของหล่อนก็ถูกรวบและถูกดึงเข้าไปหาร่างกายกำยำของคามิเอลเสียก่อน

“คุณ... จะทำอะไรน่ะ ปล่อยนะคะ”

“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า แค่จะให้รางวัล”

คนตัวโตก้มหน้าต่ำลงมาหา ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาเขย่าโสตประสาทของหล่อนได้อย่างรุนแรงเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

“รางวัล...?”

“ใช่ รางวัล... ที่เธอเลือกและผูกเนกไทให้ฉันได้อย่างยอดเยี่ยมยังไงล่ะ”

แล้วเขาก็ไม่เปิดโอกาสให้หล่อนได้พูดอะไรออกไปอีก ปากร้อนผ่าวสุดเร้าใจของเขาทาบประกบลงมาหาอย่างรวดเร็ว เขาขยี้ บดเคล้าจนกลีบปากของหล่อนแทบจะฉีกขาด แต่ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่สาแก่ใจ ยังไม่เพียงพอกับความโหยหาที่อัดแน่นอยู่ภายใน เพราะเขายังคงเดินหน้า จูบอย่างบ้าระห่ำ ปากของเขาแนบชิดประกบอย่างแน่นหนา ลิ้นแกร่งบุกรุกเข้าไปในช่องปากหวานฉ่ำของหล่อนทันทีที่หล่อนเผลอตัวร้องคราง เขาตวัด ดูดดื่ม ทุกสัมผัสความหอมหวาน ดื่มกินทุกอณูแห่งความอภิรมย์จากกลีบปากของหล่อน ทุกอย่างมันสวยงาม ทุกอย่างมันเต็มไปด้วยความซาบซ่านรัญจวนใจ และทุกอย่างคงเดินหน้าต่อไปอีก ถ้าคนตัวโตไม่ผละออกห่างไปเสียก่อน ทิ้งให้หล่อนลอยคว้างอยู่ท่ามกลางความโหยหาที่ยังไม่อิ่มเอมตามลำพัง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป